ข้อเสียของการใช้สายไฮดรอลิคที่ไม่ได้มาตรฐาน

สายไฮดรอลิค

ข้อเสียของการใช้สายไฮดรอลิคที่ไม่ได้มาตรฐาน

การบำรุงรักษาสายไฮดรอลิค โดยทั่วไป

 

สายไฮดรอลิค เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ไฮดรอลิคชนิดหนึ่ง ทำหน้าลำเลียงของเหลวไปยังระบบไฮดรอลิค และซึ่งขับเคลื่อนด้วยแรงดันซึ่งได้รับการออกแบบให้ใช้กับ เครื่องจักรกล รถยนต์ เครื่องฉีดน้ำ ปั๊มน้ำ เป็นต้น ลักษณะโดยทั่วไปของสายไฮดรอลิคนั้น จะมีโครงสร้างด้านนอกเป็นยางสังเคราะห์ และด้านในจะเสริมด้วยลวดถักเพื่อเสริมแรงดัน พร้อมกับการย้ำข้อต่อไฮดรอลิค และก่อนที่เราจะมาทำความรู้จักกับสายไฮดรอลิค เรามาทำความรู้จักระบบไฮดรอลิคกันก่อนดีกว่า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วระบบไฮดรอลิคจะมีส่วนสำคัญ 3 ประการ คือ

 

  1. ระบบจ่ายพลังงาน : โดยการนำส่งน้ำมันเข้าสู่ระบบ มีมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์เป็นตัวขับปั๊มไฮดรอลิคให้หมุน เพื่อดูดน้ำมันจากถังพักเข้ามาสู่ในตัวเสื้อของปั๊ม แล้วส่งออกไปสู่ระบบไฮดรอลิค

  2. ระบบควบคุมการทำงาน : เป็นระบบที่ใช้ควบคุมการทำงานของกระบอกไฮดรอลิค ที่ช่วยคุมทิศทางการไหลของน้ำมัน ทำให้กระบอกเคลื่อนที่ เข้า-ออก ได้ และยังควบคุมความดันของน้ำมันในระบบ เพื่อจำกัดความดันให้เป็นไปตามต้องการในการใช้งานต่าง ๆ นอกจากนั้นยังเป็นระบบควบคุมปริมาณการไหลของน้ำมันไฮดรอลิคให้เหมาะสม ชึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือปรับช่องทางออกและเปิดออกช่องทางผ่าน อีกด้วย

  3. อุปกรณ์การทำงาน : ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงพลังงานจากพลังงานไฮดรอลิค เป็นพลังงานกล เพื่อกระทำต่อภาวะโหลด

 

ซึ่งองค์ประกอบที่สำคัญในระบบไฮดรอลิคนั้นก็คือ สายไฮดรอลิค หรือ Hydraulic Hose


มีหน้าที่ในการลำเลียงของเหลว พร้อมกับการขับเคลื่อนความดันไปยังส่วนต่าง ๆ ของระบบไฮดรอลิค โดยนิยมใช้น้ำมันเป็นตัวกลางในการส่งถ่ายพลังงาน เพราะว่ามีคุณสมบัติที่ทำให้การส่งถ่ายพลังงานมีประสิทธิภาพมากกว่าตัวกลางชนิดอื่น สำหรับในบทความนี้เรารวบรวม 4 ข้อเสียของการใช้สายไฮดรอลิคที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นปัญหาที่มักพบบ่อยในระบบไฮดรอลิค ไฮดรอลิคเป็นระบบที่ใช้อุปกรณ์หลายชนิดในการทำงานเมื่อมีการใช้งานเป็นระยะเวลานาน ย่อมเกิดปัญหาจุกจิกได้ โดยปัญหาในระบบที่มักพบส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากอะไรบ้าง สรุปโดยรวมให้ เพื่อเป็นการดูแลรักษาระบบให้มีประสิทธิภาพ และพร้อมใช้งานดังนี้

  1. ส่งผลต่อแรงดันที่ไม่ได้มาตรฐานของการใช้งาน กล่าวคือ สายที่ไม่ได้มาตรฐานจะส่งผลต่อระบบการทำงานของเครื่องจักร หรือ เกิดการรั่วขึ้นภายใน ซึ่งโดยปกติจะต้องอยู่ที่ 400,000 รอบต่อการใช้งาน ซึ่งข้อเสียที่ตามมาอีกประการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ การที่ต้องเสียเวลาในการตรวจเช็กที่ถี่ขึ้น รวมถึงการเสียต้นทุนของพนักงานในเรื่องของการซ่อมบำรุงที่มากขึ้นอีกด้วย

  2. อายุการใช้งานที่สั้น กล่าวคือ เมื่อสายไม่ได้มาตรฐานย่อมสึกหลอ หรือ มักเกิดปัญหาที่จุกจิกที่คาดไม่ถึง เช่น ท่อตัน หรือ ขาดง่าย เป็นต้น ส่วนใหญ่สายที่ได้มาตรฐานเป็นยางสังเคราะห์ที่ใช้กันมาก โดยส่วนมากแล้วจะมีสีดำซึ่งหลายคนอาจเรียกว่า ยางดำ เป็นวัตถุดิบผลิตชิ้นงานที่ที่ได้มาจากยางสังเคราะห์ มีคุณสมบัติที่ดี คือ ทนต่อการบาด การเฉือน และการทิ่มตำดีกว่ายางธรรมชาติ ทนต่อน้ำมันต่าง ๆ เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันเครื่อง น้ำมันไฮดรอลิก จาระบี น้ำมันพืช น้ำมันหรือไขมันจากสัตว์ สารที่สกัดจากปิโตรเลียม หรือมีส่วนผสมของปิโตรเลียม เป็นต้น ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนในการทำธุรกิจที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก

  3. สายไม่โค้งงอตามระบบภายในของเครื่องจักร กล่าวคือ การที่เราใช้สายที่ไม่ได้มาตรฐานย่อมส่งผลต่อการใช้งานกับเครื่องจักรต่างๆ ที่หลากหลายในอุตสาหกรรม ซึ่งเครื่องจักรในอุตสาหกรรมจะมีหลายขนาด และสายที่ดีต้องงอได้ตามช่องเล็กๆ เพื่อลำเลียงพลังงานให้กับเครื่องจักรนั้น ๆ แต่ถ้าสายไม่สามารถงอได้ก็จะทำให้เกิดการชำรุด ขาด หรือ สายหัก ส่งผลต่อความเสียหายให้กับระบบภาพรวมได้

  4. ขาดการยืดหยุ่น และเสียรูป กล่าวคือ การเสื่อมสภาพจากการขาดการยืดหยุ่น มักเกิดรอยแตก บิด งอ ยืด หรือหดตัวจนไม่สามารถใช้งานได้ดีเหมือนเดิม การเสื่อมสภาพจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ และสภาพการใช้งาน เมื่อเกิดการเสื่อมสภาพแล้ว โดยวัสดุจะมีลักษณะการเสื่อมสภาพแบบต่าง ๆ เช่น แข็ง เปราะ หรือเนื้อของแพ็กกิ้งซีลหายไป ที่ผิวนอกหรือเกิดขึ้นเฉพาะในจุดหรือบริเวณที่เกิดความเสียหาย เช่น ขอบ หรือผิวสัมผัสซึ่งการเสื่อมสภาพดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการรั่วซึมขึ้นในระบบ
 

การบำรุงรักษาสายไฮดรอลิค โดยทั่วไป ควรทำการบำรุงรักษาใน 3 ระดับ


การตรวจสอบรายวัน: ดูแลการตรวจสอบประจำวันง่าย ๆ สองสามอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ตัวอย่างเช่น ควรตรวจสอบระดับน้ำมัน ท่อ และจุดเชื่อมต่อต่าง ๆ มีน้ำมันรั่วซึมหรือไม่ และฟังเสียงที่ผิดปกติของเครื่องเพื่อดูว่าระบบยังใช้งานปกติหรือไม่

การตรวจสอบรายสัปดาห์/รายเดือน: วางแผนและดำเนินการตามขั้นตอนการบำรุงรักษารายสัปดาห์และรายเดือน เช่น ตรวจสอบแหล่งที่มาของสาเหตุเสียหายที่พบบ่อยตามสภาพการทำงานของไส้กรองตันหรือไม่ สภาพความสะอาดของน้ำมัน ขุ่น ใส ข้น เป็นต้น

การตรวจสอบระบบอย่างสมบูรณ์: เป็นการตรวจสอบระบบทั้งหมด อาจกำหนดเป็นรายไตรมาสหรือรายปี และควรครอบคลุมถึงระบบการทำความสะอาดอุปกรณ์ การระบายความร้อน และการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายทั้งหมด

จากที่เราได้กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าระบบไฮดรอลิคที่ใช้กับอุปกรณ์หรือในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีความเสี่ยงสูงจึงต้องมีความระมัดระวังในการเลือกสายไฮดรอลิคที่มีคุณภาพเพื่อความปลอดภัยของชีวิต และทรัพย์สิน ฉะนั้นก่อนการเลือกซื้อคุณจึงควรทราบถึงคุณสมบัติสำคัญต่างๆ ดังนี้

(1) ขนาดของสายไฮดรอลิค ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ควรพิจารณาจากขนาดของเครื่องจักรที่จะปั๊มของเหลวหรืออากาศที่ผ่านตัวสายให้ตรงกับขนาดความกว้างของสายไฮดรอลิค

(2) วัสดุที่ใช้ทั้งภายนอก และภายในของสายไฮดรอลิค โดยพิจารณาจากความทนทานต่ออุณหภูมิการใช้งาน, วัสดุส่งผ่าน และความสามารถในการทนต่อแรงดัน เป็นต้น โดยสายจะต้องสามารถรับอุณหภูมิได้ทั้งสองแบบด้วยกัน คืออุณหภูมิภายนอกที่สายถูกวางอยู่ กับอุณหภูมิของสิ่งที่ไหลผ่านสาย ซึ่งวัสดุที่ใช้จะต้องมีค่าที่สมดุลด้วยกันทั้งคู่ ที่สำคัญคือต้องไม่ติดไฟเหมือนต้องเจอกับอุณหภูมิที่สูง ซึ่งสายไฮดรอลิคที่ผลิตจากโรงงานที่มีมาตรฐาน จะมีหมายเลขกำกับระบุขนาดอยู่เสมอ

 

สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้งานสายไฮดรอลิค ก็คือการหมั่นตรวจเช็คสภาพความสมบูรณ์ของสายทุกครั้งก่อนใช้งานเพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยืนยาวได้อีกด้วย และหากคุณกำลังมองหาสายไฮดรอลิค คุณภาพดีให้กับโรงงานอุตสาหกรรมของคุณ เราคือผู้นำเข้าสายไฮดรอลิค สายเทอร์โมพลาสติก สายฉีดน้ำแรงดันสูง ข้อต่อไฮดรอลิค คุณภาพสูง ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานสากล และเป็นส่วนหนึ่งของในระบบไฮดรอลิคครบวงจร สามารถดูสินค้าและสายไฮดรอลิคคุณภาพดีเยี่ยม ประเภทต่างๆ ได้ที่นี่

 

สนใจติดต่อได้ที่
873 Soi Sukhumvit 101/1 , Bangchak, Phrakhanong, Bangkok , Thailand 10260
Tel : 095-595-3645
Tel: +662 746 2212
Fax: +662 746 2215

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้